ชีสผัก 2 สี เมนูอาหารสำหรับเด็กอายุ 8 เดือนขึ้นไป
ครีมชีสผัก 2 สี เมนูอาหารสำหรับเด็กอายุ 8 เดือนขึ้นไป เมนูอาหารนี้พัฒนาจากสูตร “ครีมชีสผัก” (คลิก) โดยเพิ่มแครอทเป็นส่วนผสม ทำให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มคุณค่าทางสารอาหาร เนื่องจากแครอทเป็นแหล่งของแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี ชีสผัก 2 สีเมนูนี้ประกอบด้วยมันฝรั่ง บล็อคโคลี่ แครอท และเชดด้าชีส มันฝรั่งจัดเป็นอาหารบำรุงระบบประสาทและสมอง เนื่องจากมีวิตามินบี 6 สูง แต่ไม่ควรรับประทานมันฝรั่งเกินวันละ 1 ถ้วยตวง เนื่องจากมันฝรั่งมีกรดแอล-แอสคอร์บิก (วิตามินซี) จะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารจนท้องอืดท้องเฟ้อได้ บล็อคโคลี่ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และสร้างภูมิคุ้มกันโรค หญิงตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานบล็อคโคลี่ได้ เพราะเป็นผักที่มีโฟเลทสูง ป้องกันความผิดปกติกับทารกแรกเกิด และลดความพิการทางสมองของเด็ก ช่วยป้องกันอาหารท้องผูก ส่วนเชดด้าชีส ถือได้ว่ามีสารอาหารเทียบเท่ากับนม เพราะอัดแน่นไปด้วยแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของเด็กๆ นอกจากนั้นยังมีโปรตีน ฟอสฟอรัส สังกะสี แถมมีน้ำตาลแลคโตสต่ำกว่านม ทำให้มีโอกาสการแพ้แลคโตสในนมลดลงด้วย
ส่วนผสมของชีสผัก 2 สี
มันฝรั่ง (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น) 300 กรัม
แครอทขนาดกลาง 1 หัวหรือประมาณ 125 กรัม (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
นมแม่ (หรือนมที่ลูกดื่มประจำ) 4 ช้อนโต๊ะ
บล็อคโคลี่ 75 กรัม
เชดด้าชีส 40 กรัม
วิธีทำชีสผัก 2 สี
1. เติมน้ำลงในหม้อนึ่ง ยกขึ้นตั้งไฟ ต้มจนน้ำเดือด
2. ใส่มันฝรั่งและแครอทที่เตรียมไว้ลงไปนึ่งในหม้อเป็นเวลา 20 นาทีหรือจนกว่าเนื้อจะนิ่ม
3. ใส่บล็อคโคลี่ลงไปนึ่งในหม้อแต่ใช้เวลาเพียง 7 นาทีหรือจนกว่าเนื้อบล็อคโคลี่นิ่ม
Tips :
วิธีที่ 1 สามารถใส่บล็อคโคลี่ลงไปนึ่งพร้อมกับมันฝรั่งและแครอทก็ได้ แต่ต้องนำบล็อคโคลี่ออกจากหม้อนึ่งก่อนมันฝรั่งและแครอทเมื่อเนื้อบล็อคโคลี่นิ่ม
วิธีที่ 2 ใส่มันฝรั่งและแครอทลงไปนึ่งก่อนเมื่อเวลาผ่านไป 12 นาทีแล้วจึงค่อยนำบล็อคโคลี่ใส่หม้อนึ่ง นึ่งต่อไปอีก 7 นาทีก็จะสามารถนำบล็อคโคลี่ มันฝรั่ง และแครอทออกจากหม้อนิ่งได้พร้อมกัน
4. นำมันฝรั่ง แครอทและบล็อคโคลี่ที่นึ่งแล้วใส่ลงในเครื่องปั่น
5. เติมนม และเชดด้าชีสลงไป ปั่นให้ได้ความละเอียดตามต้องการ
6. ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ : เมนูนี้มีโอกาสก่อให้เกิดการแพ้ในเด็ก ก่อนรับประทานควรทดสอบการแพ้ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติมคลิกที่นี่
แนะนำสูตรอาหารโดย…ฟันน้ำนมดอทคอม
ขอบคุณภาพ/สูตรอาหารจาก : Annabelkarmel